บทคัดย่อภาษาไทย

บทคัดย่อภาษาอังกฤษ

กิตติกรรมประกาศ

สารบัญ

สารบัญตาราง

สารบัญภาพ

บทที่ 1 บทนำ

ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา

ความมุ่งหมายและวัตถุประสงค์ของการศึกษา

ขอบเขตการศึกษา

ขั้นตอนของการศึกษา

กรอบแนวคิดการวิจัยและวิธีการศึกษา

แหล่งข้อมูล

นิยามศัพท์

บทที่ 2 ฉัน ความรู้ และการเข้าถึงความรู้: ทบทวนวรรณกรรม

1. ชาร์ล ไฮแอม (Higham) ในฐานะผู้รู้แห่งโคกพนมดี

2. “ฉัน” และการเข้าถึงความรู้

   2.1 เพศภาวะและแนวคิดสตรีนิยมหลังสมัยใหม่

   2.2 โบราณคดีหลังกระบวนการและโบราณคดีเพศภาวะ

   2.3 การทบทวนงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

3. นัยทางโบราณคดี (Archaeological correlates)

บทที่ 3 เขา และงานของเขา: การทำความเข้าใจ

เขา: ชาร์ล ไฮแอมกับอิทธิพลทางความคิดของฉัน

งานของเขาที่โคกพนมดี: ว่าด้วยข้อมูลพื้นฐานจากการศึกษาทางโบราณคดี

สมัยการฝังศพ

อ่านงานของเขา: ว่าด้วยเรื่องเพศภาวะและสถานภาพทางสังคมในมุมของชาร์ล ไฮแอม

บทที่ 4 ทำความรู้จักเธอ และเขา: การวิเคราะห์เรื่องเพศกับหลักฐานทางโบราณคดี

เขาและเธอจากสมัยการฝังศพที่ 1

เขาและเธอจากสมัยการฝังศพที่ 2

เขาและเธอจากสมัยการฝังศพที่ 3

เขาและเธอจากสมัยการฝังศพที่ 4

เขาและเธอจากสมัยการฝังศพที่ 5

เขาและเธอจากสมัยการฝังศพที 6

เขาและเธอจากสมัยการฝังศพที่ 7

ทบทวนเรื่องราวของเขาและเธอจากชุมชนโคกพนมดี

ค้นหาความแตกต่างของหลักฐานทางโบราณคดีที่พบร่วมของเขาและเธอ

เขาและเธอถูกจัดวางอย่างไร: ว่าด้วยการกระจายตัว และทิศทางการหันศีรษะของโครงกระดูก

บทที่ 5 การตีความของเขา กับเรื่องเล่าจากมุม "ฉัน”

นั่งนึกถึงตัวฉัน: อะไรประกอบสร้างฉัน

ความเป็นผู้รู้ของ “ฉัน”

เพศภาวะ และสถานภาพทางสังคมของคนสมัยก่อนประวัติศาสตร์: การตีความจากการวิเคราะ หลักฐานทางโบราณคดี

เพศภาวะ และสถานภาพทางสังคมของคนสมัยก่อนประวัติศาสตร์: มุมมองจากงานชาติพันธุ์ วรรณาทางโบราณคดี

การสร้างภาพอดีตของ “ผู้หญิง” และ “ผู้ชาย” ชุมชนโคกพนมดีในสมัยก่อนประวัติศาสตร์ในอีกมุมมอง

บทส่งท้าย: การตีความทางเลือก ความรู้ทางโบราณคดีจาก “คนชายขอบ”

รายการอ้างอิง

ประวัติผู้เขียน

การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาที่เรียกว่า “การตีความทางเลือก” มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างภาพอดีตในสมัยก่อนประวัติศาสตร์ของชุมชนโคกพนมดีขึ้นใหม่ โดยใช้แนวคิด “โบราณคดีเพศภาวะ” มาใช้ในการตีความหลักฐานทางโบราณคดีชุดเดียวกับชาร์ลส ไฮแอม และรัชนี ทศรัตน์ นักโบราณคดีคนสำคัญที่ทำการศึกษาและสร้างภาพอดีตของชุมชนโคกพนมดีในสมัยก่อนประวัติศาสตร์มาแล้ว โดยมีสมมติฐานเบื้องต้นว่า หากใช้แนวคิด ทฤษฎีในการศึกษาตีความที่แตกต่างกันกับการศึกษาที่ผ่านมา จะสามารถตีความและสร้างภาพอดีตในสมัยก่อนประวัติศาสตร์ในแง่มุมที่แตกต่างกันออกไปได้ เนื่องจากผู้ศึกษาเชื่อว่าไม่มีความจริง หรือความรู้ชุดใดที่เป็นสากล และการศึกษาเรื่องราวในสมัยก่อนประวัติศาสตร์ก็เป็นเพียงการตีความหรือคาดเดาเท่านั้น ดังนั้นผลการจากศึกษาครั้งนี้จึงเป็นเพียง “ภาพแทนความจริงในอดีตอีกชุดหนึ่ง” ซึ่งเป็นเพียงอีกหนึ่ง “ทางเลือก” ของการสร้างภาพอดีตเท่านั้น และการศึกษาครั้งนี้ไม่ใช่การสร้าง “ความจริง” ชุดใหม่ หรือความจริงเพียงหนึ่งเดียวขึ้นมาเพื่อลบล้างความจริง หรือความรู้ที่มีอยู่เดิม ผลจากการศึกษา สามารถตีความในมุมมองทางเลือกว่า ความเป็นหญิง ความเป็นชายของคนในสมัยก่อนประวัติศาสตร์ที่ชุมชนโคกพนมดีไม่ได้ถูกแบ่งแยกออกจากกันอย่างเบ็ดเสร็จ แต่มีความคลุมเครือ และซ้อนทันกันของทั้งชนชั้น สถานะ ความสัมพันธ์ทางเครือญาติ เป็นต้น ซึ่งทำให้ผู้หญิงผู้ชายไม่มีเพศใดที่มีสถานะทางสังคม มีอำนาจเหนืออีกเพศอย่างเบ็ดเสร็จ แต่ตำแหน่งแห่งที่ที่แตกต่างกันทำให้ผู้หญิงผู้ชายในระดับปัจเจกมีความแตกต่างเหลื่อมล้ำของสถานภาพทางสังคมของปัจเจกนั้นๆ