บทคัดย่อภาษาไทย

บทคัดย่อภาษาอังกฤษ

กิติกรรมประกาศ

สารบาญตาราง

สารบาญภาพประกอบ

สารบาญภาพลายเส้น

บทที่ 1 บทนำ

ความเป็นมาและความสำคัญของเรื่อง

ความมุ่งหมายในการศึกษา

ขอบเขตของการศึกษา

แหล่งข้อมูลและการรวบรวมข้อมูลที่ใช้ในการศึกษา

วิธีดำเนินการศึกษา

ข้อตกลงเบื้องต้นในการอ่าน

ประโยชน์ที่ได้รับจากการศึกษา

บทที่ 2 ความเป็นมาของอารยธรรมเขมรสมัยก่อนเมืองพระนครและสมัยเมืองพระนคร

การค้นคว้าเกี่ยวกับอารยธรรมเขมร

การศึกษาจากจารึกและเอกสารต่างชาติ

การศึกษาทางโบราณคดี

การศึกษาทางประวัติศาสตร์ศิลปะ

อารยธรรมในประเทศกัมพูชา

บทที่ 3 ความเป็นมาของอารยธรรมเขมรในดินแดนประเทศไทยปัจจุบัน

การค้นคว้าเกี่ยวกับอารยธรรมเขมรในดินแดนประเทศไทย

การศึกษาจากจารึก

การศึกษาทางโบราณคดี

การศึกษาทางประวัติศาสตร์ศิลปะ

ร่องรอยอารยธรรมในดินแดนประเทศไทย

บทที่ 4 รูปแบบและคติของทับหลังในหน่วยศิลปากรที่ 6

ทับหลังสลักลวดลายพันธุ์พฤกษาผสมรูปบุคคลหรือรูปสัตว์

     คติในพุทธศาสนา

     คติในศาสนาพราหมณ์

ทับหลังสลักภาพเล่าเรื่องผสมลายพันธุ์พฤกษา

     คติในศาสนาพราหมณ์

ทับหลังสลักเฉพาะภาพเล่าเรื่อง

     คติในพุทธศาสนา

     คติในศาสนาพราหมณ์

บทที่ 5 ลักษณะศิลปกรรมและการกำหนดอายุของทับหลังในหน่วยศิลปากรที่ 6

ทับหลังสลักลวดลายพันธุ์พฤกษาผสมรูปบุคคลหรือรูปสัตว์

     คติในพุทธศาสนา

     คติในศาสนาพราหมณ์

ทับหลังสลักภาพเล่าเรื่องผสมลายพันธุ์พฤกษา

     คติในศาสนาพราหมณ์

ทับหลังสลักเฉพาะภาพเล่าเรื่อง

     คติในพุทธศาสนา

     คติในศาสนาพราหมณ์

บทที่ 6 บทสรุป

บรรณานุกรม

ประวัติการศึกษา

ทับหลังจำนวน 50 แผ่น ซึ่งเก็บรักษาไว้ในหน่วยศิลปากรที่6 อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่คือ 1. ทับหลังสลักลวดลายพันธุ์พฤกษาผสมรูปบุคคลหรือรูปสัตว์ 2. ทับหลังสลักภาพเล่าเรื่องผสมลวดลายพันธุ์พฤกษา 3. ทับหลังสลักเฉพาะภาพเล่าเรื่อง ซึ่งทับหลังแต่ละกลุ่มในสามกลุ่มใหญ่นี้ก็ยังสามารถแบ่งย่อยตามคติการสร้างภาพได้ 1 – 2 กลุ่ม คือ กลุ่มคติพุทธศาสนา และกลุ่มคติศาสนาพราหมณ์ ซึ่งปรากฏว่าทับหลังจำนวน 50 แผ่นนี้สร้างขึ้นในคติศาสนาพราหมณ์ 40 แผ่น และสร้างในคติพุทธศาสนาเพียง 10 แผ่นเท่านั้น เรื่องที่นิยมสลักมากที่สุดในคติพุทธศาสนา คือ พระพุทธรูปและพุทธประวัติ ส่วนในคติศาสนาพราหมณ์นิยมสลักเรื่องนารายณ์อวตารเป็นสำคัญ เรื่องราวเกี่ยวกับพระอิศวรหรือเทพองค์อื่นก็มีบ้างแต่เป็นส่วนน้อย สำหรับรายละเอียดของภาพสลักบนทับหลังเหล่านี้ก็คล้ายคลึงกับทับหลังเขมรที่ค้นพบในประเทศกัมพูชาทั้งด้านคติการสร้างภาพและด้านศิลปกรรม แต่ก็ยังคงมีรายละเอียดปลีกย่อยบางประการซึ่งแตกต่างไปจากทับหลังในประเทศกัมพูชาบ้าง ซึ่งคงเนื่องจากสถานที่ เวลา และสกุลช่างซึ่งแตกต่างกัน อย่างไรก็ตามเราก็สามารถเปรียบเทียบรูปแบบทางศิลปกรรมและเรื่องราวในคติศาสนาได้โดยตรงกับทับหลังเขมรที่พบในประเทศกัมพูชา จึงแสดงให้เห็นว่าอยู่ในวัฒนธรรมเขมรอันเดียวกัน