ชื่อผู้แต่ง | ธีระวัฒน์ แสนคำ |
วารสาร/นิตยสาร | วารสารอารยธรรมศึกษาโขง-สาละวิน |
เดือน | มกราคม-มิถุนายน |
ปี | 2563 |
ปีที่ | 1 |
ฉบับที่ | 1 |
หน้าที่ | 33-38 |
ภาษา | ไทย |
ข้อมูลที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ แสดงให้เห็นภาพอย่าง ชัดเจนว่ามีผู้คนจากลุ่มแม่น้ำโขง เดินทางติดต่อกับผู้คนใน ลุ่มแม่น้ำสาละวิน โดยผ่านลุ่มแม่น้ำน่านและลุ่มแม่น้ำปิงมา แล้วอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 2,000 - 2,500 ปีมาแล้ว
นอกจากนี้ ยังพบว่าเส้นทางดังกล่าว เป็นเส้นทางการ ติดต่อคมนาคมระหว่างเขตแคว้นสุโขทัย โดยเฉพาะบริเวณลุ่มน้ำน่านไปยังกลุ่มเมืองเวียงจันทน์ เวียงคำ (ซายฟอง) ใน สมัยทวารวดีและลพบุรี” สืบมาจนถึงสมัยสุโขทัยและ อยุธยา รวมทั้งในปัจจุบันถึงแม้ว่าจะไม่มีเส้นทางคมนาคม หลักที่ทำให้เห็นภาพเส้นทางการติดต่อของผู้คนจากลุ่ม แม่น้ำโขงและลุ่มแม่น้ำสาละวินในยุคแรกอย่างชัดเจน แต่ หากมองจากสภาพทางภูมิศาสตร์แล้วก็จะเห็นช่องเขาต่างๆ ที่บางแห่งยังคงเป็นเส้นทางการติดต่อระหว่างชาวไทยกับ ชาวลาว หรือเส้นทางสายตาก – แม่สอด - เมียวดี ที่มีการ พัฒนาจากเส้นทางโบราณจนเป็นถนนสายสำคัญในปัจจุบัน
ส่วนสาเหตุที่ผู้คนจากลุ่มแม่น้ำโขงเดินทางมาติดต่อ กับผู้คนในลุ่มแม่น้ำสาละวินนั้น สาเหตุสำคัญคือการเดิน ทางมาหาแหล่งแร่โลหะที่ใช้ในการทำเครื่องมือเครื่องใช้ อาวุธ รวมทั้งกลองมโหระทึกสาเหตุต่อมาอาจจะเกิดปัญหา มาจากการถูกรุกรานจากกลุ่มคนทางตอนใต้ของจีน ทำให้เกิดการอพยพย้ายถิ่น ข้ามน้ำข้ามเขาเพื่อหาที่ตั้งถิ่นฐานใหม่ และสาเหตุสุดท้ายคงเป็นเพราะการขยายอิทธิพลและเชื่อม โยงทางวัฒนธรรมไปยังดินแดนอื่นเช่นเดียวกับอิทธิพลจาก อินเดียและตะวันออกไกลที่ขยายเข้ามาทางทะเล ในช่วง ระยะเวลาไล่เลี่ยกัน
บทความนี้จึงเป็นเสมือนการเปิดประตูย้อนไปให้เห็น ภาพสะท้อนจากในอดีต โดยอาศัยกลองมโหระทึกที่พบใน เขตภาคเหนือตอนล่างและพื้นที่ใกล้เคียงเป็นหลักฐานทาง โบราณคดีในการศึกษา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงเส้นทางการ ขยายอิทธิพลทางวัฒนธรรมและการเคลื่อนย้ายถิ่นฐานของ ผู้คนยุคแรกในดินแดนสุวรรณภูมิ จากดินแดนลุ่มแม่น้ำโขง เชื่อมโยงมาจนถึงลุ่มแม่น้ำสาละวินได้อย่างชัดเจนอีกหลักฐานหนึ่ง
ข้อมูลที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ แสดงให้เห็นภาพอย่าง ชัดเจนว่ามีผู้คนจากลุ่มแม่น้ำโขง เดินทางติดต่อกับผู้คนใน ลุ่มแม่น้ำสาละวิน โดยผ่านลุ่มแม่น้ำน่านและลุ่มแม่น้ำปิงมา แล้วอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 2,000 - 2,500 ปีมาแล้ว
นอกจากนี้ ยังพบว่าเส้นทางดังกล่าว เป็นเส้นทางการ ติดต่อคมนาคมระหว่างเขตแคว้นสุโขทัย โดยเฉพาะบริเวณลุ่มน้ำน่านไปยังกลุ่มเมืองเวียงจันทน์ เวียงคำ (ซายฟอง) ใน สมัยทวารวดีและลพบุรี” สืบมาจนถึงสมัยสุโขทัยและ อยุธยา รวมทั้งในปัจจุบันถึงแม้ว่าจะไม่มีเส้นทางคมนาคม หลักที่ทำให้เห็นภาพเส้นทางการติดต่อของผู้คนจากลุ่ม แม่น้ำโขงและลุ่มแม่น้ำสาละวินในยุคแรกอย่างชัดเจน แต่ หากมองจากสภาพทางภูมิศาสตร์แล้วก็จะเห็นช่องเขาต่างๆ ที่บางแห่งยังคงเป็นเส้นทางการติดต่อระหว่างชาวไทยกับ ชาวลาว หรือเส้นทางสายตาก – แม่สอด - เมียวดี ที่มีการ พัฒนาจากเส้นทางโบราณจนเป็นถนนสายสำคัญในปัจจุบัน
ส่วนสาเหตุที่ผู้คนจากลุ่มแม่น้ำโขงเดินทางมาติดต่อ กับผู้คนในลุ่มแม่น้ำสาละวินนั้น สาเหตุสำคัญคือการเดิน ทางมาหาแหล่งแร่โลหะที่ใช้ในการทำเครื่องมือเครื่องใช้ อาวุธ รวมทั้งกลองมโหระทึกสาเหตุต่อมาอาจจะเกิดปัญหา มาจากการถูกรุกรานจากกลุ่มคนทางตอนใต้ของจีน ทำให้เกิดการอพยพย้ายถิ่น ข้ามน้ำข้ามเขาเพื่อหาที่ตั้งถิ่นฐานใหม่ และสาเหตุสุดท้ายคงเป็นเพราะการขยายอิทธิพลและเชื่อม โยงทางวัฒนธรรมไปยังดินแดนอื่นเช่นเดียวกับอิทธิพลจาก อินเดียและตะวันออกไกลที่ขยายเข้ามาทางทะเล ในช่วง ระยะเวลาไล่เลี่ยกัน
บทความนี้จึงเป็นเสมือนการเปิดประตูย้อนไปให้เห็น ภาพสะท้อนจากในอดีต โดยอาศัยกลองมโหระทึกที่พบใน เขตภาคเหนือตอนล่างและพื้นที่ใกล้เคียงเป็นหลักฐานทาง โบราณคดีในการศึกษา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงเส้นทางการ ขยายอิทธิพลทางวัฒนธรรมและการเคลื่อนย้ายถิ่นฐานของ ผู้คนยุคแรกในดินแดนสุวรรณภูมิ จากดินแดนลุ่มแม่น้ำโขง เชื่อมโยงมาจนถึงลุ่มแม่น้ำสาละวินได้อย่างชัดเจนอีกหลักฐานหนึ่ง