ชื่อผู้แต่ง | ทัศน์ไท พลมณี |
วารสาร/นิตยสาร | วารสารศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น |
เดือน | มกราคม-มิถุนายน |
ปี | 2560 |
ปีที่ | 9 |
ฉบับที่ | 1 |
หน้าที่ | 46-66 |
ภาษา | ไทย |
หัวเรื่อง | ความเชื่อ, พิธีกรรมชุมชน, ปราสาทวัดพู |
การวิจัยนี้ผู้วิจัยได้ทำการศึกษาความเชื่อและพิธีกรรมของชุมชนต่อ ปราสาทวัดพู แขวงจำปาสัก สปป.ลาว ผู้วิจัยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประวัติความเป็นมาและสภาพปัจจุบันปราสาทวัดพู อีกทั้งความเชื่อต่อปราสาทวัดพูในอดีต จนไปถึงความเชื่อและพิธีกรรมชุมชนต่อปราสาทวัดพู แขวงจำปาสัก สปป.ลาวในปัจจุบัน ซึ่งในการศึกษาวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาข้อมูลทั้งจากเอกสารและการลงพื้นที่สังเกต สัมภาษณ์ และ สนทนากับประชากรในชุมชน ได้แก่ผู้รู้ ผู้นำชุมชน ผู้ปฏิบัติ และกลุ่มผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ ในชุมชน ปราสาทหินวัดพู ได้สร้างขึ้นและผ่านการเวลาหลายยุคสมัย ปรากฏเด่นชัดสามยุค เริ่มต้นในยุคของอาณาจักรเจนละ กระทั่งต่อมาในยุคอาณาจักรขอมที่มีบทบาทเป็นศาสนสถานของศาสนาพราหมณ์และช่วงท้ายยุคอาณาจักรล้านช้างที่ได้ปรับเปลี่ยนปราสาทขอมให้เป็นพุธสถานของนิกายเถรวาทแต่ละช่วงเวลานั้นปรากฏร่องรอยความเชื่อแบ่งตามคติของแต่ละศาสนาที่เข้ามามีอิทธิพลต่อตัวปราสาท ซึ่งความเชื่อต่อปราสาทวัดพูในอดีตนั้นเริ่มจากความเชื่อของศาสนาพราหมณ์ที่ได้รับอิทธิพลจากอาณาจักรฟูนัน ในยุคสมัยครั้งที่อาณาจักรเจนละยังตกอยู่ภายใต้การปกครองมาถึงช่วงกลางที่ปรากฏความเชื่อของศาสนาพราหมณ์ในลัทธิไศวะนิกายที่พบหลักฐานเป็นภาพสลักตรีมูรติและศิวะลึงค์ที่อยู่ในบริเวณตัวปราสาท จนถึงช่วงปลายหลังจากขอมเสื่อมอำนาจลงการเข้ามาของพุทธศาสนาจากอาณาล้างช้างเข้ามาทำให้ปราสาทวัดพูเปลี่ยนบทบาทจากเทวะสถานกลายเป็นพุทธสถานได้นำเอาพระพุทธรูปประดิษฐานแทนที่ศิวะลึงค์ในลัทธิไศวะกายบริเวณปรางค์ประธานให้ประชาชนและชุมชนในพื้นที่รอบปราสาทได้กราบไหว้และประกอบพิธีกรรมตามความเชื่อในทางพุทธศาสนาโดยมีสถานที่เป็นตัวปราสาทวัดพูที่สร้างขึ้นในลัทธิความเชื่อศาสนาพราหมณ์ในลัทธิไศวะนิกายที่นับถือพระศิวะมาจนกระทั่งปัจจุบัน ความเชื่อและพิธีกรรมที่ปรากฏให้เห็นนั้นจำแนกได้ 2 ลักษณะ คือ 1) ความเชื่อที่ถือปฏิบัติกันทั้งประเทศในทางพุทธศาสนา ที่เป็นศาสนาหลักประจำชาติลาว จากพิธีกรรมสำคัญที่มีผู้เข้าร่วมพิธีกรรมจากทั้งละแวกชุมชนโดยรอบปราสาทอีกทั้งประชาทั้งในและต่างประเทศในงานประเพณีบุญนมัสการวัดพูมีการทำบุญตักบาตรตามความเชื่อทางพระพุทธศาสนา 2)ความเชื่อท้องถิ่น ที่มีการเซ่นสังเวยสัตว์เพื่อเสี่ยงทายบูชาผีบรรพบุรุษผีเจ้านายและเทพเจ้าที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิตประกอบอาชีพในทางเกษตรกรรม ในพิธีกรรมเลี้ยงศาลปู่ตาของชุมชนโดยรอบปราสาท และยังปรากฏความเชื่อที่ถือปฏิบัติส่วนบุคคลซึ่งส่งผลต่อจิตใจ ในด้านการวิงวอนต่ออำนาจเร้นลับพลังเหนือธรรมชาติในสถานที่ที่ผู้เข้าร่วมพิธีกรรมเชื่อว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในลักษณะคำบอกเล่าจากรุ่นสู่รุ่นแทรกตัวอยู่ในความเชื่อหลักทั้ง2ความเชื่อที่กล่าวข้างต้นอีกด้วย ลักษณะความเชื่อและพิธีกรรมที่ปรากฏต่างๆนั้นล้วนแล้วแต่ได้รับอิทธิพลจากแต่ละความเชื่อของแต่ละศาสนาที่เข้ามาผลัดเปลี่ยนทับซ้อนกันในช่วงเวลาต่างๆส่งผลต่อพื้นที่โดยมีปราสาทวัดพูเป็นจุดเชื่อมโยงให้เห็นการผสมผสาน ความเชื่อก่อให้เกิดเป็นพิธีกรรมของชุมชนต่อปราสาทวัดพูที่สอดคล้องกับการดำเนินชีวิตและยังปรากฏให้เห็นสืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน
การวิจัยนี้ผู้วิจัยได้ทำการศึกษาความเชื่อและพิธีกรรมของชุมชนต่อ ปราสาทวัดพู แขวงจำปาสัก สปป.ลาว ผู้วิจัยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประวัติความเป็นมาและสภาพปัจจุบันปราสาทวัดพู อีกทั้งความเชื่อต่อปราสาทวัดพูในอดีต จนไปถึงความเชื่อและพิธีกรรมชุมชนต่อปราสาทวัดพู แขวงจำปาสัก สปป.ลาวในปัจจุบัน ซึ่งในการศึกษาวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาข้อมูลทั้งจากเอกสารและการลงพื้นที่สังเกต สัมภาษณ์ และ สนทนากับประชากรในชุมชน ได้แก่ผู้รู้ ผู้นำชุมชน ผู้ปฏิบัติ และกลุ่มผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ ในชุมชน ปราสาทหินวัดพู ได้สร้างขึ้นและผ่านการเวลาหลายยุคสมัย ปรากฏเด่นชัดสามยุค เริ่มต้นในยุคของอาณาจักรเจนละ กระทั่งต่อมาในยุคอาณาจักรขอมที่มีบทบาทเป็นศาสนสถานของศาสนาพราหมณ์และช่วงท้ายยุคอาณาจักรล้านช้างที่ได้ปรับเปลี่ยนปราสาทขอมให้เป็นพุธสถานของนิกายเถรวาทแต่ละช่วงเวลานั้นปรากฏร่องรอยความเชื่อแบ่งตามคติของแต่ละศาสนาที่เข้ามามีอิทธิพลต่อตัวปราสาท ซึ่งความเชื่อต่อปราสาทวัดพูในอดีตนั้นเริ่มจากความเชื่อของศาสนาพราหมณ์ที่ได้รับอิทธิพลจากอาณาจักรฟูนัน ในยุคสมัยครั้งที่อาณาจักรเจนละยังตกอยู่ภายใต้การปกครองมาถึงช่วงกลางที่ปรากฏความเชื่อของศาสนาพราหมณ์ในลัทธิไศวะนิกายที่พบหลักฐานเป็นภาพสลักตรีมูรติและศิวะลึงค์ที่อยู่ในบริเวณตัวปราสาท จนถึงช่วงปลายหลังจากขอมเสื่อมอำนาจลงการเข้ามาของพุทธศาสนาจากอาณาล้างช้างเข้ามาทำให้ปราสาทวัดพูเปลี่ยนบทบาทจากเทวะสถานกลายเป็นพุทธสถานได้นำเอาพระพุทธรูปประดิษฐานแทนที่ศิวะลึงค์ในลัทธิไศวะกายบริเวณปรางค์ประธานให้ประชาชนและชุมชนในพื้นที่รอบปราสาทได้กราบไหว้และประกอบพิธีกรรมตามความเชื่อในทางพุทธศาสนาโดยมีสถานที่เป็นตัวปราสาทวัดพูที่สร้างขึ้นในลัทธิความเชื่อศาสนาพราหมณ์ในลัทธิไศวะนิกายที่นับถือพระศิวะมาจนกระทั่งปัจจุบัน ความเชื่อและพิธีกรรมที่ปรากฏให้เห็นนั้นจำแนกได้ 2 ลักษณะ คือ 1) ความเชื่อที่ถือปฏิบัติกันทั้งประเทศในทางพุทธศาสนา ที่เป็นศาสนาหลักประจำชาติลาว จากพิธีกรรมสำคัญที่มีผู้เข้าร่วมพิธีกรรมจากทั้งละแวกชุมชนโดยรอบปราสาทอีกทั้งประชาทั้งในและต่างประเทศในงานประเพณีบุญนมัสการวัดพูมีการทำบุญตักบาตรตามความเชื่อทางพระพุทธศาสนา 2)ความเชื่อท้องถิ่น ที่มีการเซ่นสังเวยสัตว์เพื่อเสี่ยงทายบูชาผีบรรพบุรุษผีเจ้านายและเทพเจ้าที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิตประกอบอาชีพในทางเกษตรกรรม ในพิธีกรรมเลี้ยงศาลปู่ตาของชุมชนโดยรอบปราสาท และยังปรากฏความเชื่อที่ถือปฏิบัติส่วนบุคคลซึ่งส่งผลต่อจิตใจ ในด้านการวิงวอนต่ออำนาจเร้นลับพลังเหนือธรรมชาติในสถานที่ที่ผู้เข้าร่วมพิธีกรรมเชื่อว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในลักษณะคำบอกเล่าจากรุ่นสู่รุ่นแทรกตัวอยู่ในความเชื่อหลักทั้ง2ความเชื่อที่กล่าวข้างต้นอีกด้วย ลักษณะความเชื่อและพิธีกรรมที่ปรากฏต่างๆนั้นล้วนแล้วแต่ได้รับอิทธิพลจากแต่ละความเชื่อของแต่ละศาสนาที่เข้ามาผลัดเปลี่ยนทับซ้อนกันในช่วงเวลาต่างๆส่งผลต่อพื้นที่โดยมีปราสาทวัดพูเป็นจุดเชื่อมโยงให้เห็นการผสมผสาน ความเชื่อก่อให้เกิดเป็นพิธีกรรมของชุมชนต่อปราสาทวัดพูที่สอดคล้องกับการดำเนินชีวิตและยังปรากฏให้เห็นสืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน