| ชื่อผู้แต่ง | สมเดช ลีลามโนธรรม |
| วารสาร/นิตยสาร | นิตยสารศิลปากร |
| เดือน | กันยายน-ตุลาคม |
| ปี | 2561 |
| ปีที่ | 61 |
| ฉบับที่ | 5 |
| หน้าที่ | 5-19 |
| ภาษา | ไทย |
อินเดียเป็นแหล่งต้นแบบให้แก่การสร้างงานศิลปกรรมโบราณในประเทศไทยจากการติดต่อสัมพันธ์กันตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย เช่นเดียวกับลายประดับแบบหนึ่งที่เรียกว่า “กูฑุ” ซึ่งเป็นลายที่ปรากฏขึ้นตั้งแต่ระยะแรกในงานสถาปัตยกรรมอินเดียโบราณและ สืบต่อมาโดยตลอด และยังปรากฏในสถาปัตยกรรมโบราณของไทย เช่นในเมืองอู่ทอง, พระปฐมเจดีย์ และเขาคลังนอก เมืองศรีเทพด้วย
ลวดลายกูฑุ (kudu) หมายถึง รัง ซุ้ม และลวดลาย วงโค้งรูปเกือกม้า ซึ่งใช้เป็นองค์ประกอบหรือประดับอาคารสถาปัตยกรรมอินเดียใต้ (ในสถาปัตยกรรมอินเดียเหนือ เรียกว่า ควากษะ (gavaksha)) ในลักษณะที่เป็นซุ้มหรือวงโค้งเหนือประตูหรือหน้าต่าง โดยจะย่อส่วนของวงโค้ง ให้มีขนาดเล็กลงประดับตามส่วนต่าง ๆ ของอาคาร
ลายกูฑุที่พบในชิ้นส่วนโบราณสถานในไทยในเมืองอู่ทอง, พระปฐมเจดีย์, เขาคลังนอก เมืองศรีเทพ, เมืองศรีมโหสถ และเมืองโบราณดงเมืองเตย
อินเดียเป็นแหล่งต้นแบบให้แก่การสร้างงานศิลปกรรมโบราณในประเทศไทยจากการติดต่อสัมพันธ์กันตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย เช่นเดียวกับลายประดับแบบหนึ่งที่เรียกว่า “กูฑุ” ซึ่งเป็นลายที่ปรากฏขึ้นตั้งแต่ระยะแรกในงานสถาปัตยกรรมอินเดียโบราณและ สืบต่อมาโดยตลอด และยังปรากฏในสถาปัตยกรรมโบราณของไทย เช่นในเมืองอู่ทอง, พระปฐมเจดีย์ และเขาคลังนอก เมืองศรีเทพด้วย
ลวดลายกูฑุ (kudu) หมายถึง รัง ซุ้ม และลวดลาย วงโค้งรูปเกือกม้า ซึ่งใช้เป็นองค์ประกอบหรือประดับอาคารสถาปัตยกรรมอินเดียใต้ (ในสถาปัตยกรรมอินเดียเหนือ เรียกว่า ควากษะ (gavaksha)) ในลักษณะที่เป็นซุ้มหรือวงโค้งเหนือประตูหรือหน้าต่าง โดยจะย่อส่วนของวงโค้ง ให้มีขนาดเล็กลงประดับตามส่วนต่าง ๆ ของอาคาร
ลายกูฑุที่พบในชิ้นส่วนโบราณสถานในไทยในเมืองอู่ทอง, พระปฐมเจดีย์, เขาคลังนอก เมืองศรีเทพ, เมืองศรีมโหสถ และเมืองโบราณดงเมืองเตย