ชื่อผู้แต่ง | กุสุมา รักษมณี |
วารสาร/นิตยสาร | อักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร |
เดือน | กรกฎาคม-ธันวาคม |
ปี | 1988 |
ปีที่ | 11 |
ฉบับที่ | 2 |
หน้าที่ | 73-80 |
ภาษา | ไทย |
ฉากในนิทานมักเป็นเมืองที่อยู่ไกลโพ้นซึ่งทำให้สามารถสร้างความแปลกใหม่ในเรื่องเล่าได้ การตั้งชื่อเมืองสมมติในนิทานอาจใช้ชื่อมงคลเพื่อบ่งบอกควารุ่งเรือง และมั่งคั่งของเมืองนั้น เช่น สุวรรณภูมินคร สุวรรณมหานคร ฯลฯ หรือนิทานไทยหลายเรื่องมักใช้ฉากเป็นเมืองต่างแดน โดยเฉพาะในอินเดียหรือชมพูทวีป เช่น พาราณสี สาวัตถี ตักสิลา ฯลฯ หรือในอินเดียเองก็พบการใช้เมืองต่างถิ่นเป็นฉาก เป็นต้นว่าอินเดียเหนือใช้ฉากเป็นเมืองของอินเดียใต้ อินเดียใต้ใช้ฉากเป็นเมืองของอินเดียภาคกลาง
เมืองไกลโพ้นในนิทานอินเดีย มีดินแดนหนึ่งที่มีความมั่งคั่งอยู่ในเส้นทางการค้าทางเรือ นั่นคือ สุวรรณภูมิ หรือ แผ่นดินทอง
สุวรรณภูมิที่ปรากฏในนิทานเป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์ เป็นจุดหมายปลายทางของนักเดินเรือ โดยปรากฏในคัมภีร์ทีปวงศ์ และคัมภีร์มหาวงศ์หรืออาจเรียกว่าเป็นพงศาวดารของลังกา ซึ่งมักถูกใช้ศึกษาประวัติศาสตร์และโบราณคดีถึงการมีอยู่ของดินแดนนี้ ควบคู่ไปกับศิลาจารึกของพระเจ้าอโศกมหาราช
ขุนศิริวัฒนอาณาทร ได้ศึกษาเรื่องสุวรรณภูมิจากคัมภีร์ดังกล่าว และยืนยันไว้ว่าสุวรรณภูมิมีจริง ไม่ใช่ดินแดนในจินตนาการ และแม้ว่าจะถูกใช้เป็นฉากในนิทานชาดก แต่ก็มีต้นเค้ามาจากประสบการณ์จริงด้วยเช่นกัน
สุวัณณภูมิ (สุวรรณภูมิ) ปรากฏในนิทานชาดก เรื่องสุสโสนที (ลำดับที่ 360) เรื่องมหาชนก (ลำดับที่ 539) และเรื่องสังขะ (ลำดับที่ 442) ในชาดกทั้งสามเรื่องนี้ สุวรรณภูมิเป็นดินแดนจุดหมายปลายทางของตัวละครเอก ที่ต้องฝ่าฟันคลื่นลมในมหาสมุทรไป เพื่อค้าขาย
สุวรรณทวีป และสุวรรณภูมิ ปรากฏในนิทานสันสกฤตเรื่อง กถาสริตสาคร ซึ่งมีตัวละครเดินทางไปค้าขายและได้กำไรอย่างงาม และยังมีตัวละครที่เดินทางด้วยเกวียนไปยังสุวรรณทวีปด้วย ซึ่งชี้ให้เห็นว่าดินแดนนี้ไม่น่าจะเป็นเกาะ แต่เป็นดินแดนที่มีน้ำสองข้างเหมือนดั่งชมพูทวีป
สุวรรณภูมิยังปรากฏในนิทานของปาชา ที่กล่าวถึงเรื่อราวของขุนนางเตอร์กิชด้วย นิทานเรื่องนี้ได้รับอิทธิพลจากกาหลิบในอาหรับราตรี ในนิทานของปาชามีส่วนที่อธิบายถึงภูมิศาสตร์อยู่ด้วย โดยเรียกว่า สุฟฟรา เป็นดินแดนไม่ใช่เกาะ มีอาณาเขตติดมลายูและลาว เป็นเมืองจุดหมายปลายทางของการเดินทาง มีความมั่งคั่ง ทั้งยังกล่าวถึงชาวเมืองที่แต่กายด้วยผ้าแพรและต่วนจากจีน มีเครื่องประดับอัญมณีเกลื่อนกลาดในนคร มีชายหนุ่มรูปงามจากสุฟฟราชื่อ อโศตะ สามารถกล่าวสุนทรพจน์ได้น่าประทับใจทำให้เจ้าหญิงเรื่องเป็นคู่ครอง และมีการจารจดบันทึกได้ด้วยตัวทอง
นิทานชาดก เรื่องสุสโสนที เรื่องมหาชนก และเรื่องสังขะ
นิทานสันสกฤต เรื่องกถาสริตสาคร
นิทานปาชา
ฉากในนิทานมักเป็นเมืองที่อยู่ไกลโพ้นซึ่งทำให้สามารถสร้างความแปลกใหม่ในเรื่องเล่าได้ การตั้งชื่อเมืองสมมติในนิทานอาจใช้ชื่อมงคลเพื่อบ่งบอกควารุ่งเรือง และมั่งคั่งของเมืองนั้น เช่น สุวรรณภูมินคร สุวรรณมหานคร ฯลฯ หรือนิทานไทยหลายเรื่องมักใช้ฉากเป็นเมืองต่างแดน โดยเฉพาะในอินเดียหรือชมพูทวีป เช่น พาราณสี สาวัตถี ตักสิลา ฯลฯ หรือในอินเดียเองก็พบการใช้เมืองต่างถิ่นเป็นฉาก เป็นต้นว่าอินเดียเหนือใช้ฉากเป็นเมืองของอินเดียใต้ อินเดียใต้ใช้ฉากเป็นเมืองของอินเดียภาคกลาง
เมืองไกลโพ้นในนิทานอินเดีย มีดินแดนหนึ่งที่มีความมั่งคั่งอยู่ในเส้นทางการค้าทางเรือ นั่นคือ สุวรรณภูมิ หรือ แผ่นดินทอง
สุวรรณภูมิที่ปรากฏในนิทานเป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์ เป็นจุดหมายปลายทางของนักเดินเรือ โดยปรากฏในคัมภีร์ทีปวงศ์ และคัมภีร์มหาวงศ์หรืออาจเรียกว่าเป็นพงศาวดารของลังกา ซึ่งมักถูกใช้ศึกษาประวัติศาสตร์และโบราณคดีถึงการมีอยู่ของดินแดนนี้ ควบคู่ไปกับศิลาจารึกของพระเจ้าอโศกมหาราช
ขุนศิริวัฒนอาณาทร ได้ศึกษาเรื่องสุวรรณภูมิจากคัมภีร์ดังกล่าว และยืนยันไว้ว่าสุวรรณภูมิมีจริง ไม่ใช่ดินแดนในจินตนาการ และแม้ว่าจะถูกใช้เป็นฉากในนิทานชาดก แต่ก็มีต้นเค้ามาจากประสบการณ์จริงด้วยเช่นกัน
สุวัณณภูมิ (สุวรรณภูมิ) ปรากฏในนิทานชาดก เรื่องสุสโสนที (ลำดับที่ 360) เรื่องมหาชนก (ลำดับที่ 539) และเรื่องสังขะ (ลำดับที่ 442) ในชาดกทั้งสามเรื่องนี้ สุวรรณภูมิเป็นดินแดนจุดหมายปลายทางของตัวละครเอก ที่ต้องฝ่าฟันคลื่นลมในมหาสมุทรไป เพื่อค้าขาย
สุวรรณทวีป และสุวรรณภูมิ ปรากฏในนิทานสันสกฤตเรื่อง กถาสริตสาคร ซึ่งมีตัวละครเดินทางไปค้าขายและได้กำไรอย่างงาม และยังมีตัวละครที่เดินทางด้วยเกวียนไปยังสุวรรณทวีปด้วย ซึ่งชี้ให้เห็นว่าดินแดนนี้ไม่น่าจะเป็นเกาะ แต่เป็นดินแดนที่มีน้ำสองข้างเหมือนดั่งชมพูทวีป
สุวรรณภูมิยังปรากฏในนิทานของปาชา ที่กล่าวถึงเรื่อราวของขุนนางเตอร์กิชด้วย นิทานเรื่องนี้ได้รับอิทธิพลจากกาหลิบในอาหรับราตรี ในนิทานของปาชามีส่วนที่อธิบายถึงภูมิศาสตร์อยู่ด้วย โดยเรียกว่า สุฟฟรา เป็นดินแดนไม่ใช่เกาะ มีอาณาเขตติดมลายูและลาว เป็นเมืองจุดหมายปลายทางของการเดินทาง มีความมั่งคั่ง ทั้งยังกล่าวถึงชาวเมืองที่แต่กายด้วยผ้าแพรและต่วนจากจีน มีเครื่องประดับอัญมณีเกลื่อนกลาดในนคร มีชายหนุ่มรูปงามจากสุฟฟราชื่อ อโศตะ สามารถกล่าวสุนทรพจน์ได้น่าประทับใจทำให้เจ้าหญิงเรื่องเป็นคู่ครอง และมีการจารจดบันทึกได้ด้วยตัวทอง
นิทานชาดก เรื่องสุสโสนที เรื่องมหาชนก และเรื่องสังขะ
นิทานสันสกฤต เรื่องกถาสริตสาคร
นิทานปาชา