ชื่อผู้แต่ง | จีราวรรณ แสงเพ็ชร์ |
วารสาร/นิตยสาร | ดำรงวิชาการ |
เดือน | กรกฎาคม - ธันวาคม |
ปี | 2553 |
ปีที่ | 9 |
ฉบับที่ | 1 |
หน้าที่ | 20 - 32 |
ภาษา | ไทย |
สารีริกเจติยะ หรือ ธาตุเจดีย์ คือ สถูปเจดีย์ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุภายหลังการถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระและโทณพราหมณาจารย์ ได้แบ่งพระบรมสารีริกธาตุเพื่อให้เหล่ากษัตริย์และพราหมณ์อัญเชิญกลับไปประดิษฐานยังนครของตน สำหรับรายละเอียดและขั้นตอนการประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุนับเป็นสาระสำคัญที่จะปรากฏในวรรณกรรมพุทธศาสนาในดินแดนและสมัยต่างๆ รวมทั้งอาจจะมีข้อความที่เกี่ยวข้องกับการรจนาหลักฐานประวัติศาสตร์ เป็นบทกล่าวเกริ่นนำเรื่องราวประวัติศาสตร์ชุมชน เชื่อมโยงความศักดิ์สิทธิ์ของท้องถิ่นให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนชมพูทวีป หลักฐานที่ปรากฏเป็นรูปธรรมของการประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ได้แก่ หลักฐานโบราณคดีที่พบในอินเดีย ศรีลังกา เมียนมาร์ และประเทศต่างๆ ที่รับนับถือพระพุทธศาสนา รวมทั้งประเทศไทย สำหรับรูปแบบการประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ที่ปรากฏในวัฒนธรรมทวารวดี ดังตัวอย่าง จากหลักฐานโบราณคดี ๒ แห่ง คือ สถูปหมายเลข ๑ ตำบลคูบัว จังหวัดราชบุรี และพระธาตุนาดูน อ.นาดูน จังหวัดมหาสารคาม มีตำแหน่งการประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุตามแนวแกนกลางสถูประดับลึกจากพื้นดิน อันเป็นรูปแบบดั้งเดิมของการประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุในอินเดียและศรีลังกา รวมทั้งปรากฏสัญลักษณ์ที่มีความเกี่ยวข้องกับศาสนาฮินดู และ พุทธ ศาสนา สำหรับ รูป แบบผอบที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ แสดงให้เห็นถึงการรับอิทธิพลวัฒนธรรมพุทธศาสนาที่มีต้นแบบจากอินเดียฝ่ายเหนือ และอินเดียฝ่ายใต้รวมทั้งศรีลังกา โดยอาจผ่านมาทางศิลปะพม่าสมัยวัฒนธรรมปยู แบบแผนการประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุสมัยทวารวดี นับเป็นจุดเริ่มแรกของการประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุในประเทศไทย ที่จะมีพัฒนาการสืบต่อมาสมัยหลัง
สารีริกเจติยะ หรือ ธาตุเจดีย์ คือ สถูปเจดีย์ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุภายหลังการถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระและโทณพราหมณาจารย์ ได้แบ่งพระบรมสารีริกธาตุเพื่อให้เหล่ากษัตริย์และพราหมณ์อัญเชิญกลับไปประดิษฐานยังนครของตน สำหรับรายละเอียดและขั้นตอนการประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุนับเป็นสาระสำคัญที่จะปรากฏในวรรณกรรมพุทธศาสนาในดินแดนและสมัยต่างๆ รวมทั้งอาจจะมีข้อความที่เกี่ยวข้องกับการรจนาหลักฐานประวัติศาสตร์ เป็นบทกล่าวเกริ่นนำเรื่องราวประวัติศาสตร์ชุมชน เชื่อมโยงความศักดิ์สิทธิ์ของท้องถิ่นให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนชมพูทวีป หลักฐานที่ปรากฏเป็นรูปธรรมของการประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ได้แก่ หลักฐานโบราณคดีที่พบในอินเดีย ศรีลังกา เมียนมาร์ และประเทศต่างๆ ที่รับนับถือพระพุทธศาสนา รวมทั้งประเทศไทย สำหรับรูปแบบการประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ที่ปรากฏในวัฒนธรรมทวารวดี ดังตัวอย่าง จากหลักฐานโบราณคดี ๒ แห่ง คือ สถูปหมายเลข ๑ ตำบลคูบัว จังหวัดราชบุรี และพระธาตุนาดูน อ.นาดูน จังหวัดมหาสารคาม มีตำแหน่งการประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุตามแนวแกนกลางสถูประดับลึกจากพื้นดิน อันเป็นรูปแบบดั้งเดิมของการประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุในอินเดียและศรีลังกา รวมทั้งปรากฏสัญลักษณ์ที่มีความเกี่ยวข้องกับศาสนาฮินดู และ พุทธ ศาสนา สำหรับ รูป แบบผอบที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ แสดงให้เห็นถึงการรับอิทธิพลวัฒนธรรมพุทธศาสนาที่มีต้นแบบจากอินเดียฝ่ายเหนือ และอินเดียฝ่ายใต้รวมทั้งศรีลังกา โดยอาจผ่านมาทางศิลปะพม่าสมัยวัฒนธรรมปยู แบบแผนการประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุสมัยทวารวดี นับเป็นจุดเริ่มแรกของการประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุในประเทศไทย ที่จะมีพัฒนาการสืบต่อมาสมัยหลัง