หน้าแรก บทความ พัฒนาการทางวัฒนธรรมในลุ่มแม่น้ำมูล : กรณีศึกษาแหล่งโบราณคดี เมืองเสมา อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา

พัฒนาการทางวัฒนธรรมในลุ่มแม่น้ำมูล : กรณีศึกษาแหล่งโบราณคดี เมืองเสมา อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา

พัฒนาการทางวัฒนธรรมในลุ่มแม่น้ำมูล : กรณีศึกษาแหล่งโบราณคดี เมืองเสมา อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา

ชื่อผู้แต่ง เขมิกา หวังสุข
วารสาร/นิตยสาร ดำรงวิชาการ
เดือน มกราคม-กรกฎาคม
ปี 2545
ปีที่ 1
ฉบับที่ 1
หน้าที่ 101-137
ภาษา ไทย
หัวเรื่อง เมืองเสมา, ชุมชนโบราณ, ลุ่มแม่น้ำป่าสัก

เนื้อหาโดยย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพัฒนาการทางวัฒนธรรมของชุมชนโบราณ ในบริเวณลุ่มแม่น้ำมูล โดยทำการศึกษาแหล่งโบราณคดีเมืองเสมา อำเภอสูงเนิน จังหวัด นครราชสีมา เพื่อทราบถึงพัฒนาการทางวัฒนธรรมของชุมชนโบราณเมืองเสมา ตำบลเสมา อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา และศึกษาถึงความสัมพันธ์ของชุมชนโบราณแห่งนี้กับ ชุมชนโบราณร่วมสมัยในบริเวณลุ่มแม่น้ำมูล และชุมชนโบราณร่วมสมัยในบริเวณลุ่มแม่น้ำ เจ้าพระยา ลุ่มแม่น้ำลพบุรี-ป่าสัก และชุมชนโบราณในภูมิภาคใกล้เคียง ทำการศึกษา เปรียบเทียบ วิเคราะห์ ตีความ ข้อมูลหลักฐานทุกประเภท ได้แก่ โบราณสถาน โบราณวัตถุ ประเภทต่าง ๆ รวมทั้งภาชนะดินเผา ที่ได้จากการสำรวจ การขุดแต่ง และการขุดค้น ทางโบราณคดีที่แหล่งโบราณคดีเมืองเสมา และแหล่งโบราณคดีร่วมสมัยในบริเวณลุ่มแม่น้ำ มูลที่ได้มีการศึกษาไว้แล้วประกอบกับข้อมูลที่ได้จากการสำรวจชุมชนโบราณในบริเวณ ลุ่มแม่น้ำมูลเพิ่มเติม

ผลการวิจัยพบว่า ชุมชนโบราณที่แหล่งโบราณคดีเมืองเสมาปรากฏร่องรอยการ อยู่อาศัย 3 ระยะด้วยกันคือ ตั้งแต่สมัยแรกเริ่มประวัติศาสตร์ (ราวพุทธศตวรรษที่ 10 – 11) โดยเป็นกลุ่มชนพื้นเมืองที่มีความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมกับชุมชนสมัยหัวเลี้ยวหัวต่อประวัติ ศาสตร์ที่อาศัยอยู่ในบริเวณลุ่มแม่น้ำมูล โดยเฉพาะชุมชนโบราณในลุ่มแม่น้ำมูลตอนบนและ ตอนกลาง และยังได้มีการติดต่อกับชุมชนโบราณร่วมสมัยในบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาและ ลุ่มแม่น้ำลพบุรี-ป่าสักด้วย ระยะที่ 2 อิทธิพลทางวัฒนธรรมจากบริเวณภาคกลางประเทศไทย ที่สำคัญได้แก่ วัฒนธรรมสมัยทวารวดี ได้เข้ามามีอิทธิพลด้านต่าง ๆ ต่อพัฒนาการของชุมชน

สมัยแรกเริ่มประวัติศาสตร์ที่แหล่งโบราณคดีเมืองเสมา ไม่ว่าจะเป็นด้านสภาพชีวิต ความเป็นอยู่ ความเชื่อ เครื่องมือเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน เป็นต้น ซึ่งสอดคล้องกับชุมชน โบราณในบริเวณลุ่มแม่น้ำมูลและในภูมิภาคอื่น ๆ ที่ได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมสมัย ทวารวดีในช่วงเวลานี้เช่นกัน (ราวพุทธศตวรรษที่ 12 – 15) ส่วนในระยะที่ 3 อิทธิพลทาง วัฒนธรรมจากภูมิภาคเดียวกันได้เข้ามามีอิทธิพลต่อชุมชนโบราณที่แหล่งโบราณคดี เมืองเสมาคืออิทธิพลวัฒนธรรมร่วมแบบเขมร (ราวต้นพุทธศตวรรษที่ 16 – 18) ซึ่งเป็นช่วง ที่อิทธิพลวัฒนธรรมร่วมแบบเขมรได้เข้ามามีอิทธิพลต่อชุมชนโบราณในบริเวณลุ่มแม่น้ำมูล และชุมชนโบราณในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือรวมทั้งชุมชนโบราณในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศไทยด้วย

หลักฐานสำคัญ

โบราณวัตถุที่พบบริเวณเมืองเสมา

คำสำคัญ/ป้ายกำกับ

เมืองเสมา ลุ่มน้ำมูล

ยุคสมัย

ทวารวดี

จำนวนผู้เข้าชม

41

วันที่เผยแพร่ข้อมูล

14 มี.ค. 2567

พัฒนาการทางวัฒนธรรมในลุ่มแม่น้ำมูล : กรณีศึกษาแหล่งโบราณคดี เมืองเสมา อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา

  • พัฒนาการทางวัฒนธรรมในลุ่มแม่น้ำมูล : กรณีศึกษาแหล่งโบราณคดี เมืองเสมา อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา
  • blog-img
    ชื่อผู้แต่ง :
    เขมิกา หวังสุข

    ชื่อบทความ :
    พัฒนาการทางวัฒนธรรมในลุ่มแม่น้ำมูล : กรณีศึกษาแหล่งโบราณคดี เมืองเสมา อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา

    วารสาร/นิตยสาร
    วารสาร/นิตยสาร :
    ดำรงวิชาการ

    เดือน
    เดือน :
    มกราคม-กรกฎาคม

    ปี :
    2545

    ปีที่ :
    1

    ฉบับที่ :
    1

    หน้าที่ :
    101-137

    ภาษา :
    ไทย

    หัวเรื่อง :
    เมืองเสมา, ชุมชนโบราณ, ลุ่มแม่น้ำป่าสัก

    เนื้อหาโดยย่อ

    การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพัฒนาการทางวัฒนธรรมของชุมชนโบราณ ในบริเวณลุ่มแม่น้ำมูล โดยทำการศึกษาแหล่งโบราณคดีเมืองเสมา อำเภอสูงเนิน จังหวัด นครราชสีมา เพื่อทราบถึงพัฒนาการทางวัฒนธรรมของชุมชนโบราณเมืองเสมา ตำบลเสมา อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา และศึกษาถึงความสัมพันธ์ของชุมชนโบราณแห่งนี้กับ ชุมชนโบราณร่วมสมัยในบริเวณลุ่มแม่น้ำมูล และชุมชนโบราณร่วมสมัยในบริเวณลุ่มแม่น้ำ เจ้าพระยา ลุ่มแม่น้ำลพบุรี-ป่าสัก และชุมชนโบราณในภูมิภาคใกล้เคียง ทำการศึกษา เปรียบเทียบ วิเคราะห์ ตีความ ข้อมูลหลักฐานทุกประเภท ได้แก่ โบราณสถาน โบราณวัตถุ ประเภทต่าง ๆ รวมทั้งภาชนะดินเผา ที่ได้จากการสำรวจ การขุดแต่ง และการขุดค้น ทางโบราณคดีที่แหล่งโบราณคดีเมืองเสมา และแหล่งโบราณคดีร่วมสมัยในบริเวณลุ่มแม่น้ำ มูลที่ได้มีการศึกษาไว้แล้วประกอบกับข้อมูลที่ได้จากการสำรวจชุมชนโบราณในบริเวณ ลุ่มแม่น้ำมูลเพิ่มเติม

    ผลการวิจัยพบว่า ชุมชนโบราณที่แหล่งโบราณคดีเมืองเสมาปรากฏร่องรอยการ อยู่อาศัย 3 ระยะด้วยกันคือ ตั้งแต่สมัยแรกเริ่มประวัติศาสตร์ (ราวพุทธศตวรรษที่ 10 – 11) โดยเป็นกลุ่มชนพื้นเมืองที่มีความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมกับชุมชนสมัยหัวเลี้ยวหัวต่อประวัติ ศาสตร์ที่อาศัยอยู่ในบริเวณลุ่มแม่น้ำมูล โดยเฉพาะชุมชนโบราณในลุ่มแม่น้ำมูลตอนบนและ ตอนกลาง และยังได้มีการติดต่อกับชุมชนโบราณร่วมสมัยในบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาและ ลุ่มแม่น้ำลพบุรี-ป่าสักด้วย ระยะที่ 2 อิทธิพลทางวัฒนธรรมจากบริเวณภาคกลางประเทศไทย ที่สำคัญได้แก่ วัฒนธรรมสมัยทวารวดี ได้เข้ามามีอิทธิพลด้านต่าง ๆ ต่อพัฒนาการของชุมชน

    สมัยแรกเริ่มประวัติศาสตร์ที่แหล่งโบราณคดีเมืองเสมา ไม่ว่าจะเป็นด้านสภาพชีวิต ความเป็นอยู่ ความเชื่อ เครื่องมือเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน เป็นต้น ซึ่งสอดคล้องกับชุมชน โบราณในบริเวณลุ่มแม่น้ำมูลและในภูมิภาคอื่น ๆ ที่ได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมสมัย ทวารวดีในช่วงเวลานี้เช่นกัน (ราวพุทธศตวรรษที่ 12 – 15) ส่วนในระยะที่ 3 อิทธิพลทาง วัฒนธรรมจากภูมิภาคเดียวกันได้เข้ามามีอิทธิพลต่อชุมชนโบราณที่แหล่งโบราณคดี เมืองเสมาคืออิทธิพลวัฒนธรรมร่วมแบบเขมร (ราวต้นพุทธศตวรรษที่ 16 – 18) ซึ่งเป็นช่วง ที่อิทธิพลวัฒนธรรมร่วมแบบเขมรได้เข้ามามีอิทธิพลต่อชุมชนโบราณในบริเวณลุ่มแม่น้ำมูล และชุมชนโบราณในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือรวมทั้งชุมชนโบราณในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศไทยด้วย

    หลักฐานสำคัญ

    โบราณวัตถุที่พบบริเวณเมืองเสมา


    ห้องสมุดแนะนำ :

    ลิงก์ที่มา :

    ดาวน์โหลดบทความ :

    ยุคสมัย
    ทวารวดี

    คำสำคัญ/ป้ายกำกับ
    เมืองเสมา ลุ่มน้ำมูล

    วันที่เผยแพร่ข้อมูล : 14 มี.ค. 2567
    จำนวนผู้เข้าชม : 41